วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

MITSUBISHI LANCER 1.6 CNG VS PROTON PERSONA CNG

สวัสดีครับ เพื่อน ๆ ทุกคน มาพบกันอีกครั้ง สำหรับวันนี้จะมาทำการเปรียบเทียบรถพลังงานทางเลือกที่กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ในขณะนี้ นั่นก็คือ รถยนต์นั่งขนาดเล็กติดตั้งแก๊ส CNG หรือเรียกอีกอย่างว่า NGV และรถที่นำมาเปรียบเทียบในวันนี้นั้น ความสามารถพอฟัดพอเหวี่ยงกันเลยทีเดียว


MITSUBISHI LANCER 1.6 CNG
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยบอกว่า 7 เดือนที่ผ่านมา มิตซูบิชิ แลนเซอร์มียอดขายโตถึง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขนี้บอกถึงความนิยมของรถยนต์นั่งขนาดเล็กของมิตซูบิชิ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดแม้จะอยู่ในช่วงปลายโมเดลก็ตาม มิตซูบิชิ แลนเซอร์นั้นมีชื่อเสียและจุดเด่นในเร่าองรูปทรงที่ค่อนข้างสปอร์ต ทรงพลังเป็นเพราะอิทธิพลของรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่น อีโวลูชั่น นั่นเอง แต่ในการเปิดตัว มิตซูบิชิ แลนเซอร์ล่าสุดเป็นการเพิ่มรุ่น ติดตั้งระบบแก๊ส CNG หรือ NGV ในภายหลัง พร้อมกับเทคโนโลยี Bi Fuel System ที่สามารถเลือกใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ อี 20 ได้อีกด้วย
การติดตั้งระบบแก๊สออกจากปลายสายการผลิตของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยเอง เป็นการการันตีในเรื่องการรับประกันเครื่องยนต์หากเกิดปัญหาภายหลังเช่นเดียวกับรถทุกรุ่นของมิตซูบิชิ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคระดับหนึ่ง และดีกว่าที่ผู้บริโภคจะนำรถยนต์ไปติดตั้งระบบแก๊สด้วยตัวเอง มิตซูบิชิ เป็นยี่ห้อที่ 2 ที่มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่น CNG ที่ผ่านมารถยนต์ในกลุ่มพลังงานทางเลือกประเภทแก๊สธรรมชาติ ตลาดมีความต้องการสูงมาก แม้กระทั่งในสภาวะที่ผู้บริโภคเกิดความเคยชินกับราคาน้ำมันในปัจจุบันก็ตาม และด้วยรูปทรง สมรรถนะความประหยัดของเครื่องยนต์ รวมถึงความเข้มแข็งของเครือข่ายจำหน่าย พร้อมศูนย์บริการของรถยนต์มิตซูบิชิน่าจะทำให้แลนเซอร์ CNG ทำยอดขายได้ง่าย เมื่อเทียบกับ โปรตอน Persona CNG แล้ว มิตซูบิชิ ได้เปรียบในเรื่องชื่อชั้น และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ พร้อมทั้งศูนย์บริการที่มากกว่า ส่วนตัวผลิตภัณฑ์นั้น ภาษามวยบอกว่าสดน้อยกว่า

มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) มิลลิเมตร 4,595 / 1,695 / 1,445
เครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1600 ซีซี
กำลังสูงสุด 102 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่านาที
ช่วงล่างหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัก พร้อมแหล็กกันโคลง
ช่วงล่างหลัง อิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ราคา เริ่มต้น 704,000 บาท ถึง 847,000 บาท


PROTON PERSONA CNG


โปรตอนชื่อนี้อาจจะยังไม่โด่งดังในตลาดรถยนต์เมืองไทยโดยเฉพาะหากจะเทียบกับ มิตซูบิชิ ในตลาดกลุ่มรถยนต์ติดตั้งระบบแก๊ส CNG หรือที่เข้าใจกันในชื่อรถ NGV แต่พระนครออโตเซลล์ จำกัด ผู้แทนจำหน่วยรถยนต์โปรตอนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ก็มั่นใจว่าโปรตอน เพอร์โซน่า CNG รถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบแก๊สธรรมชาติ CNG จะสามารถทำยอดขายได้ถึงเดือนละราว ๆ 500 คัน เพอร์โซนา ซีเอ็นจี ใช้เครื่องยนต์ Campro 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบท่อไอดีแปรผัน IAFM ขนาด 1600 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ 2 ระบบ ทั้งเบนซินที่รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และแก๊ส NGV โดยมีการติดตั้งระบบแก๊สที่ปลายสายการประกอบ รถยนต์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีช่วงล่างจากรถสปอร์ต โลตัส จากอังกฤษ เหมือนกับโปรตอนรุ่นอื่น ๆ ระบบความปลอดภัยมาตรฐานพอฟัดพอเหวี่ยงกับรถยนต์จากญี่ปุ่นทั้งเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติความคุมด้วยอีเล็ดทรอนิกส์ EBD
แม้จะเป็นรถยนต์จากมาเลเซีย แต่การออกแบบรูปทรงนั้นถือว่าสวยงามระดับหนึ่ง ซึ่งเพอร์โซนา CNG ตัวนี้น่าจะผลิตจากพื้นฐานเดียวกับโปรตอน เจนทู รถยนต์แบบแฮทช์แบ็กที่เปิดตัวในเมืองไทยก่อนหน้านี้ แต่การเลือกเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกอย่าง NGV นั้น น่าจะทำให้รถยนต์รุ่นนี้เติบโตได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่า เจนทู เนื่องจากรถยนต์ติดตั้งระบบแก๊ส CNG และ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ CNG เท่านั้น
จุดขายโปรตอนตั้งแต่เริ่มรุกตลาดเมืองไทย คือ ราคา แม้จะเป็นรถยนต์ในเซกเมนต์รถนั่งขนาดเล็กเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แต่ราคาที่เปิดตัวออกมานั้น อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์ขนาดซัปคอมแพกต์ คือราคาเริ่มต้นเพียง 549,000 บาท ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับกลุ่ม ฮอนด้า ซิตี้ และโตโยต้า วีออส แน่นอนหากจะเทียบโปรตอนกับ มิตซูบิชิ โดยเฉพาะในรุ่น CNG แล้ว แบรนด์โปรตอนในเมืองไทยยังห่างไกลมิตซูบิชิที่มีประวัตศาสตร์ยาวนานกว่า แต่ความมั่นคงนั้น กลุ่มพระนครออโตเซลส์ ยืนยันที่จะขยายตลาดรถยนต์รุ่นนี้ และโปรตอนที่ทำตลาดอีก 3 รุ่นอย่างเต็มที่ ล่าสุดก็เปิดโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการไปแล้วกว่า 31 แห่ง และจะเปิดเพิ่มเป็น 40 ในสิ้นปีนี้ แม้ชื่อชั้นจะเป็นกระดูกคนละเบอร์ แต่การเปิดเกมส์รุกด้วยราคาที่จูงใจกว่า ก็น่าจะเป็นแรงเหวี่ยงให้กับเพอร์โซน่า ทำยอดขายเดือนละ 500 คนได้ไม่ยากเช่นกัน

มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) มิลลิเมตร 4,477 / 1,725 / 1,438
เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1600 ซีซี
กำลังสูงสุด 110 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
ช่วงล่างหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างหลัง ลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ราคา เริ่มต้น 549,000 บาท ถึง 629,000 บาท

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

EVOLUTION VII

Photobucket

วันนี้เราขอเสนอ EVOLUTION เริ่มเป็นคันแรกของปีนี้กันก่อน จากค่าย PROSPEC ภายนอกถูกตกแต่งใหม่ สวยนำ ตามด้วยโหด หล่อและแรง ชุดแหวกอากาศชิ้นแรก คือ กันชนหน้าเป็นของ GIALLA SPORTIVO พร้อมช่องดักลมซ้าย-ขวาสำหรับ AIR CLEANER GUIDE และ OIL COOLER GUIDE แบบ CARBON พร้อมด้วยฝากระโปรงหน้า CARBON COOLING BONNET จาก VARIS ส่วนบั้นท้าย น้ำหนักเบาลงด้วยการเปลี่ยนฝากระโปรงหลัง LIGHT WEIGHT TRUNK มาใช้ของ VARIS ด้านบนถูกติดตั้งไว้ด้วยหางหลังของ EVO VIII ที่เป็น CARBON FIBER-REINFORCED PLASTIC (CFRP) ที่เบากว่ารุ่นก่อน 2 กก. รวมทั้งไฟท้ายจาก EVO VIII ด้วยเช่นกัน
Evo vii

ภายใน EVO VIII (GSR) ทั้งหมด
Photobucket
Photobucket Photobucket

ส่วนต่อมาที่จะนำเสนอคือ ภายในห้องโดยสาร ที่ถูกปรับเปลี่ยน โดยนำของ EVO VIII (GSR) เข้ามาเติมแต่งเพื่อความทันสมัย เริ่มตั้งแต่ คอนโซลหน้าสี TITMIUM-BLUE เรือนไมล์วัดความเร็วได้สูงสุด 270 กม./ชม. พวงมาลัย EVO VIII (GRS) แบบสามก้านจาก MOMO และ PASSENGER PLATE ที่วางเท้าอะลูมิเนียมจาก CARBING นอกจากนั้นเป็นของแต่งเสริมบารมีของตัวแรงสมัยใหม่ ในพิลล่าร์แบบ 2 ช่อง ทำด้วย CARBON พร้อมเกจ์วัดจาก DEFI รุ่น BF สำหรับวัดบูสต์เทอร์โบ วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ตรงกลางคอนโซลยังมี TURBO TIMER และปรับบูสต์ไฟฟ้าจาก GREDDY PROFEC B SPEC II และเครื่องเสียง HEAD UNIT ของเดิม EVO VIII จะเป็นแบบ 2 DIN แต่ทางเจ้าของได้เปลี่ยนมาใช้ของ SONY CDX-C580 เล่น MD, CD, FM และ AM ได้ตามปกติ 4G63 จาก EVO VIII เกียร์ 6 สปีด โมฯเพิ่ม...

Photobucket

เครื่องยนต์เป็นอีกหนึ่งส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ซึ่งได้ยกเอาเครื่องยนต์จาก EVO VIII รหัส 4G-63 มาสวมเข้าไปแทน ซึ่งเหตุผลที่เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่นั้น หลายท่านที่เล่น EVO คงจะทราบกันดีว่า เครื่องยนต์จาก EVO VIII นั้น มีข้อดีกว่า EVO VII อยู่หลายส่วน ตั้งแต่ ฝาสูบทำด้วย MAGNESIUM ไส้ใน แคมชาฟท์ จากเดิมเป็นเหล็กกลวง เปลี่ยนมาเป็นอะลูมิเนียมกลวงแทน VALVE RETAINERS อะลูมิเนียม พร้อมกับ VALVE ไอเสียแบบกลวง ช่วยลดแรงเฉื่อยในการเคลื่อนที่และลดภาระของสปริงวาล์ว ช่วยดีดตัวกลับได้ดีในรอบเครื่องสูง ๆ ที่ลูกสูบทำจากวัสดุอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา เคลือบด้วยเทฟล่อน ก้านสูบ FORGED STEEL เสื้อสูบแข็งแรงขึ้น ห้องเผาไหม้แบบอะลูมิเนียม ปรับแต่งใหม่ ให้มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น ตัวเทอร์โบ ด้านโข่งไอเสียเป็นแบบ TWIN SCROLL เพิ่มความเร็วของไอเสียให้ไปปั่นกังหันเทอร์โบให้บูสต์เร็วขึ้น อินเตอร์คูลเลอร์และหม้อน้ำขนาดใหญ่ขึ้น รวมทั้งระบบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ และระบบอิเล็กทรอนิกส์มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนและดีขึ้น นอกจากนั้นเรื่องของแรงบิดเครื่องยนต์ก็มากกว่าถึง 40.0 กก.-ม. (EVO VII มีเพียง 39.0 กก.-ม. ที่รอบเครื่องเท่ากัน) แต่ถ้ามองภายนอกด้วยตาเปล่า ถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องยนต์ EVO VII และ VIII ง่าย ๆ ก็คือ ฝาครอบพูลเล่ย์แคมชาฟท์จะมีเส้นเด่นชัด ฝาครอบวาล์วสีแดงจะไม่มีตัวหนังสือ จะเป็นเส้นนูนขึ้น ทั้งหมด 4 เส้น รวมทั้งบริเวณเสื้อเกียร์จะมีครีบระบายความร้อนชัดเจน และเกียร์ในรุ่น GSR จะเป็นแบบ 6 สปีด แต่ถ้าเป็นรุ่น RS จะเป็น 5 สปีด SUPER CLOSE RATIO รวมทั้ง 6 สปีด ที่เป็นออปชั่นเสริมให้เลือก
PhotobucketPhotobucket

การโมดิฟายคือส่วนต่อมา ที่จะต้องทำเพื่อเพิ่มศักยภาพในความแรงและอึด โดยเปลี่ยนสปริงวาล์วเป็นของ HKS และแคมชาฟท์เพื่อรองรับส่วนผสมให้มากขึ้นจาก HKS ขนาด 272 องศา ลิฟต์ 11.5 มม. พร้อมตัวปรับเฟืองแคมชาฟท์จาก HKS โดยลดกำลังอัดให้น้อยลง จากการเสริมปะเก็นของ HKS ขนาด 1.6 มม. ต่อจากนั้นตัวทำลมเพิ่มบูสต์จากเทอร์โบเดิม TD05HR-16 G9.8T มาเป็น HKS GT3040 ติดตั้งอยู่บนเฮดเดอร์สเตนเลสของ HKS คุมบูสต์ด้วยเวสต์เกตแยกของ TRUST TYPE S และท่อทางเดินไอเสียสเตนเลสจาก HKS HIPER ขนาด 3 นิ้ว ส่วนด้านไอดีเปลี่ยนท่อทางเดินเป็นแบบชุดคิตจาก MONSTER SPORT ต่อเข้ากับอินเตอร์คูลเลอร์จาก TRUST R-SPL และ BLOW OFF VALVE จาก GREDDY TYPE R ซึ่งยังมี OIL COOLER จาก HKS ช่วยระบายความร้อนให้กับน้ำมันเครื่องอีกเช่นกัน
Photobucket จากนั้นมาดูกันที่ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับเปลี่ยนใหม่หมด ไล่กันตั้งแต่ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงจาก BOSCH 2 ตัว ควบคุมแรงดันด้วย REGULATOR และรางหัวฉีดจาก SARD ขยายขนาดของหัวฉีดหลักเป็น 800 ซี.ซี. ควบคุมความละเอียดของส่วนผสมด้วย HKS F-CON V PRO BY MR.OHURA นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องยนต์อีกเล็กน้อย ด้วยหัวเทียน NGK เบอร์ 9 สายหัวเทียน NGK R09 ถังดักไอน้ำมันเครื่อง GREDDY, GROUND WIRE จาก SILVER'S และตัวบังลมหม้อน้ำ จาก CARBING, ฝาหม้อน้ำ ฝาปิดหัวเทียน จาก ARC ส่วนระบบส่งกำลัง ที่มากับเครื่องยนต์ 4G63 ของ EVO VIII (GSR) จะเป็นแบบ 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ CLOSE RATIO รุ่น W6MAA อัตราทดเกียร์ 1 ถึง 6 เท่ากับ 2.909, 1.944, 1.434, 1.100, 0.868, 0.693 อัตราทดเฟืองท้าย 4.583 พร้อมเปลี่ยนชุดคลัตช์เป็นแบบ TWIN PLATE จาก OS GIKEN
ช่วงล่าง CUSCO ZERO 2 ค้ำโช้ค CARBING ล้อ RACING HART CP-S10

PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket
Photobucket การทำงานของช่วงล่าง สำหรับคันนี้ปรับปรุงตามไปพร้อมกับความแรงอยู่หลายส่วนโดยเริ่มจากโช้คอัพสตรัทปรับเกลียวจาก CUSCO รุ่น ZERO 2 ปรับความหนืด 5 ระดับ ค้ำโช้คหน้า CARBING TYPE R SP และค้ำโช้คหลัง CARBING TYPE SQ ส่วนระบบเบรกยังเป็น BREMBO เหมือนเดิมทั้ง 4 ล้อ ทำงานร่วมกับระบบ EBD ระบบกระจายแรงเบรก และ ABS รวมทั้งระบบการทำงานของ ACD ทำหน้ากระจายแรงบิดหรือกระจายกำลังระหว่างล้อหน้า-หลังให้สมดุล สามารถแปรผันได้ตามสภาวะการขับขี่ ปรับการทำงานได้ 3 โหมด คือ TARMAC พื้นถนนแห้งทั่ว ๆ ไป GRAVEL พื้นถนนลื่น เช่น ลูกรัง โคลน และ SNOW ถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่ง ACD จะทำงานร่วมกับ SUPER AYC SYSTEM ที่พัฒนาจากรุ่นก่อน มีหน้าที่ช่วยกระจายกำลังลงสู่ล้อหลังซ้าย-ขวา อย่างอิสระ โดยแปรผันการทำงานได้ตามสภาวะการขับขี่ ช่วยรักษาไลน์ในการเข้าโค้งได้ดีขึ้น ต่อจากนั้นเปลี่ยนล้อ RACING HART รุ่น CP-S10 ขนาด 18 x 8 นิ้ว กับยาง YOKOHAMA ADVAN NEOVA ขนาด 235/40 R18
Photobucket

วันนี้คงจะพอแค่นี้ก่อน ครั้งต่อไปจะหารถแต่งสวย ๆ มาฝากกัน ครับ

CarSpotsMotor